น้ำมันเบรคควรเปลี่ยนเมื่อไหร่?

น้ำมันเบรคควรเปลี่ยนเมื่อไหร่?

สิ่งที่ผู้อ่านควรทำความเข้าใจและจำให้แม่นยำคือ น้ำมันเบรกไม่ใช่ของเหลวอมตะที่ใช้งานได้ตลอดโดยไม่มีการเปลี่ยนถ่าย น้ำมันเบรกที่อยู่ในรถทุกคันมีอายุการใช้งาน มีการเสื่อมสภาพ และต้องการการเปลี่ยนถ่ายที่ถูกต้อง และตรงเวลา ลูกค้าหลายท่านที่เข้ามาใช้บริการที่อู่สามารถบอกได้อย่างแม่นยำว่าน้ำเครื่องเปลี่ยนเมื่อไหร่ และเปลี่ยนอีกครั้งเมื่อใด แต่เมื่อถามถึงน้ำมันเบรก น้อยคนมากที่จะทราบว่าเปลี่ยนครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ และควรเปลี่ยนอีกครั้งเมื่อใด

ปัจจัยที่ทำให้น้ำมันเบรกเสื่อมมีหลายประการ เช่นเดียวกับของเหลวในรถยนต์อื่นๆ ปัจจัยหลักๆ ได้แก่ ความร้อน อายุการใช้งานของตัวน้ำมันเบรกเอง และปัจจัยสำคัญ คือ “ความชื้น” โดยปรกติผู้ผลิตรถมีเวลาที่กำหนดแน่นอนว่าควรเปลี่ยนเมื่อใด เช่น สมุดคู่มือรถ เชฟโลเรต แคปติว่า ระบุให้เปลี่ยนถ่ายทุกระยะ 60000กิโลเมตร หรือ 2 ปี อย่างไรก็ตามสำหรับสภาพอากาศเมืองไทย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องขับรถในเมืองและมีการลุยน้ำที่ท่วมขังบ่อยๆ ตลอดจนสภาพภูมิอากาศที่ร้อนและชื้นตลอดเวลา ทำให้การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกต้องทำอย่างตรงเวลาหรือ เร็วกว่ากำหนดจะดีที่สุด การเสื่อมสภาพของน้ำมันเบรกจะทำให้คุณสมบัติของน้ำมันเบรกเปลี่ยนไป เช่น จุดเดือดที่ลดลง เช่น น้ำมันเบรกเกรด DOT5 มีจุดเดือด 260 °องศาเซลเซียส แต่จะลดลงเหลือ 180 องศา เมื่อได้รับความชื้น
สำหรับระยะเวลาเปลี่ยนถ่ายที่เหมาะสมที่สุดของเมืองไทยคือหลังสิ้นสุดฤดูฝนไปแล้ว เพื่อทำการล้างน้ำมันเบรกที่สะสมความชื้นจากอากาศ หรือการลุยน้ำที่ท่วมขังมาตลอดฤดูฝนออกไป นอกจากนั้นควรตรวจสอบระบบห้ามล้ออื่นๆ เช่น การรั่วซึมของน้ำมันเบรกในระบบ สายเบรก รวมทั้งยางหุ้มลูกสูบเบรกว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่

น้ำมันเบรคมีกี่แบบ และควรใช้แบบใด?
โดยทั่วไป รถทุกรุ่น ทุกยี่ห้อได้ระบุเกรดของน้ำมันเบรคที่ใช้กับรถไว้อย่างชัดเจนแล้ว โดยส่วนมากจะอิงตามมาตร FMVSS(The Federal Motor Vehicle Safety Standards) ของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมาตรที่ใช้ในท้องตลาดปัจจุบันได้แก่เกรด DOT 3, DOT 4, DOT 5 และ DOT 5.1 ซึ่งแต่ละเกรดจะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน เช่น จุดเดือด, จุดเดือดเมื่อได้รับความชื้น, ความหนืดเมื่ออุณหภูมิติดลบ 40 องศา, ความหนืดเมื่ออุณหภูมิ 100 องศา ซึ่งจากคุณสมบัติเหล่านี้ ผู้ผลิตรถยนต์ได้คำนวณเกรดของน้ำมันเบรคที่เหมาะกับอุปกรณ์และสภาพอากาศที่เหมาะสมของแต่ละภูมิภาคเอาไว้แล้ว การเปลี่ยนเกรดน้ำมันเบรกหรือใช้น้ำมันเบรกไม่ถูกต้องอาจส่งผลเสียกับระบบห้ามล้อ ดังนั้นเกรดของน้ำมันเบรกที่ดีที่สุด คือเกรดที่ผู้ผลิตได้แนะนำให้ใช้